วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2560

“สตรอง” คำฮิตติดปาก...คนยุคใหม่

จันทราวรรณ  เสมาทอง

          สังคมไทยในปัจจุบันมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากอดีตจนถึงปัจจุบันเรียกอีกอย่างว่า“ยุคใหม่” มีการพัฒนาทั้งทางด้านเทคโนโลยี การอุตสาหกรรม การคมนาคม รวมไปถึงการสื่อสารที่มีความซับซ้อนมากขึ้น อีกทั้งได้มีวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามามีอิทธิพลในสังคมไทย ทำให้มีคำใหม่เกิดขึ้นมากมาย มีการยืมคำต่างประเทศมาใช้ อย่างคำว่า “สตรอง” ซึ่งเป็นคำที่พูดติดปากและเป็นกระแสดังในโลกโซเชียวเน็ตเวิร์คในขณะนี้
          หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “สตรอง” อยู่บ้างแล้ว ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษตรงกับคำว่า Strong พจนานุกรมฉบับแปลอังกฤษ-ไทย (2554: หน้า 507) ได้ให้ความหมายไว้ว่า Strong (สตรอง) หมายถึง แข็งแรง เข้มแข็ง มั่นคง แน่นหนา โดยรวมๆแล้วก็หมายถึง เข้มแข็งนั่นเอง


          จุดเริ่มต้นที่ทำให้คำว่า “สตรอง” เป็นคำพูดติดฮิตติดปากคนไทยก็คือ มาจากรายการ The Face Thailand Season 2 (2558, ตุลาคม, 24) เป็นรายการที่โด่งดังในขณะนั้น โดยเมนเทอร์ลูกเกด (เมทินี กิ่งโพยม) ได้พูดไว้ในรายการตอนที่กำลังสอนลูกทีมถ่ายแบบ ช่วงนี้เองเมนเทอร์ลูกเกดได้พูดคำว่า “สตรอง” ซึ่งจัดเต็มทั้งหน้าและเสียง ชาวเน็ตก็ได้นำคลิปตอนพูดสตรองไปตัดต่อ ทำให้เรียกเสียงฮาจากชาวโซเชียวเน็ตเวิร์คได้ไม่น้อย สิ่งนี้เองทำให้คำว่า“สตรอง”กลายเป็นคำฮิตติดปากคนไทยโดยเฉพาะวัยรุ่นโดยปริยาย





  
          ในโลกโซเชียวเน็ตเวิร์คก็ได้มีการใช้คำว่า “สตรอง” กันอย่างแพร่หลาย ทั้งเฟซบุ๊ก  ทวิตเตอร์หรือแม้กระทั่งบทความต่างๆ ล้วนใช้คำว่าสตรองเข้ามาเสริทบทเสมอจะเห็นได้จากข้อความที่บุคคลใช้โพสต์กันมากมายเหล่านี้
          คนไทยส่วนใหญ่นั้นจะใช้คำว่า “สตรอง” ในความหมายเชิงบวก ก็คือ เหมือนพูดให้กำลังใจตัวเองในเชิงต้องสู้ต่อไป ต้องอยู่ให้ไหว อยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ตัวอย่างเช่น

  
          ข้อความบนทวิตเตอร์ที่บุคคลหนึ่งโพสต์ความประมาณว่าอกหักจากใครสักคนหนึ่ง เขาจึงต้องสตรอง ก็คือต้องอยู่ให้ได้ ต้องเข้มแข็งเข้าไว้



          อีกตัวอย่างข้อความบนเฟซบุ๊กที่บุคคลหนึ่งโพสต์ความประมาณว่าให้กำลังใจตัวเองว่าต้องสตรองเข้มแข็งกับงานในเดือนนี้
          จะสังเกตว่าคนไทยจะนิยมใช้คำคำทับศัพท์คำว่า“สตรอง” มากกว่าที่จะใช้คำไทยที่ตรงกับคำว่า “แข็งแรง” ซึ่งดิฉันศึกษามา พจนานุกรมฉบับราชบัญฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 (2559: ย่อหน้า 1) ได้ให้ความหมายไว้ว่า “แข็งแรง” หมายถึงมีกําลังมาก ลํ่าสัน มั่นคง คงทน ฯลฯ  
          สิ่งที่ทำให้คนนิยมใช้คำว่า “สตรอง” มากกว่า “แข็งแรง” ก็เพราะคำว่าสตรองเป็นคำที่พูดแล้วดูดี มีระดับ เข้ากับปัจจุบัน ซึ่งความหมายของคำว่าสตรองก็ไม่ตรงตัวเสมอไปทำให้สื่อความหมายได้หลากหลาก ตัวอย่างเช่น
           “เราต้องสตรอง” หมายถึง เราต้องแข็งแรง เราต้องสู้ หรืออาจหมายถึงเราต้องเข้มแข็งก็ได้
          “เราต้องแข็งแรง” หมายถึงเราต้องมั่นคง ประโยคของเรานั้นอาจจะฟังดูแปลกๆ ในการสื่อความหมายก็จะผิดเพี้ยนไปอีกด้วย
          เราจะเห็นได้ว่าทั้งสองคำนี้เป็นคำคำเดียวกัน แต่เมื่อนำคำแต่ละคำมาใช้แล้วในบริบทเดียวกันแล้วทำให้ความหมายของบริบทนั้นๆเปลี่ยนไป ซึ่งคนก็จะนิยมใช้คำว่า สตรอง มากกว่านั่นเอง ทั้งนี้เนื่องด้วยสังคมที่เปลี่ยนไปเป็นยุคสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ
          วัฒนธรรมต่างชาติเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การสื่อสารก็เลยเปลี่ยนไปตามกระแสของโลก คำที่รับเข้ามาก็มากขึ้น เมื่อมีบุคคลหนึ่งจุดประกาย ใช้คำว่าสตรองที่รับมาจากภาษาต่างประเทศขึ้นมา คนอื่นๆ ที่อยู่ก็จะใช้ตามกันไปเรื่อยๆ ทำให้คำว่าสตรองใช้กันมากจนเป็นคำที่ฮิตพูดติดปากคนไทยนั่นเอง


2 ความคิดเห็น: